งานเอกสารที่พนักงานออฟฟิศต้องทำ

การทำงานในองค์กรหรือสำนักงานแทบทุกแห่ง ย่อมหนีไม่พ้นเรื่อง “งานเอกสาร” ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบกระดาษหรือดิจิทัล เอกสารถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการติดต่อสื่อสาร บันทึกข้อมูล ใช้ยืนยันความถูกต้อง และเป็นหลักฐานประกอบการตัดสินใจของผู้บริหาร ดังนั้นพนักงานออฟฟิศจึงจำเป็นต้องมีทักษะในการจัดการเอกสารหลายประเภท งานเอกสารที่พนักงานออฟฟิศต้องทำ สามารถแบ่งออกเป็น 10 ประเด็นหลัก ดังต่อไปนี้


1. การพิมพ์เอกสาร

การพิมพ์เป็นงานพื้นฐานที่พนักงานออฟฟิศทุกคนต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นจดหมายราชการ บันทึกข้อความ หนังสือเวียน ไปจนถึงสัญญาและเอกสารทางธุรกิจ ความสามารถในการใช้โปรแกรมพิมพ์ เช่น Microsoft Word หรือ Google Docs ถือว่าสำคัญมาก เพราะนอกจากพิมพ์ให้เสร็จแล้ว ต้องจัดรูปแบบให้สวยงามและอ่านง่าย เช่น การใช้ฟอนต์มาตรฐาน การเว้นบรรทัดที่เหมาะสม การใส่หัวเรื่องที่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น การพิมพ์หนังสือเชิญประชุม ต้องใช้ถ้อยคำสุภาพและเป็นทางการ รวมถึงตรวจสอบชื่อผู้รับและวันเวลาที่ถูกต้อง

งานเอกสารที่พนักงานออฟฟิศต้องทำ

2. การจัดทำรายงาน

รายงานเป็นเอกสารที่ใช้ในการสรุปผลการทำงานหรือแสดงข้อมูลในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น รายงานการประชุม รายงานยอดขาย รายงานผลการปฏิบัติงาน การทำรายงานต้องมีการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และจัดรูปแบบให้อ่านง่าย เช่น การใช้ตาราง แผนภูมิ หรือ Bullet Point เพื่อสื่อสารข้อมูลให้ชัดเจน ตัวอย่างเช่น รายงานประจำเดือนของฝ่ายขาย อาจต้องสรุปยอดขายของพนักงานแต่ละคน พร้อมเปรียบเทียบกับเป้าหมาย และให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุง


3. การทำแบบฟอร์มและเอกสารธุรการ

แบบฟอร์มเป็นเอกสารสำเร็จรูปที่ช่วยให้การทำงานมีมาตรฐานและรวดเร็ว พนักงานออฟฟิศมักต้องกรอกหรือสร้างฟอร์ม เช่น ใบลา ใบเบิกอุปกรณ์ ใบเบิกค่าใช้จ่าย หรือแบบฟอร์มขออนุมัติ การกรอกแบบฟอร์มต้องรอบคอบ เพราะหากข้อมูลผิดพลาด อาจทำให้การดำเนินงานล่าช้า ตัวอย่างเช่น หากเขียนเลขที่เอกสารผิด อาจทำให้ไม่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ถูกต้อง


4. การเก็บและจัดแฟ้มเอกสาร

แม้ในปัจจุบันจะมีการใช้เอกสารดิจิทัลมากขึ้น แต่เอกสารกระดาษก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ การจัดเก็บแฟ้มเอกสารอย่างเป็นระบบจึงเป็นงานที่พนักงานออฟฟิศต้องรับผิดชอบ เช่น การจัดเรียงตามลำดับอักษร ตามวันที่ หรือแยกตามประเภทงาน การเก็บที่เป็นระบบช่วยให้ค้นหาเอกสารได้ง่ายและลดความเสี่ยงในการสูญหาย ตัวอย่างเช่น การเก็บแฟ้มสัญญาลูกค้าแยกตามปี จะช่วยให้ค้นหาได้สะดวกเมื่อต้องตรวจสอบย้อนหลัง นับเป็น งานเอกสารที่พนักงานออฟฟิศต้องทำ

หนังสือ สมุด เย็บแม็คมุงหลังคา ส่งไปษณีย์ EMS
หนังสือ สมุด เย็บแม็คมุงหลังคา ส่งไปษณีย์ EMS

5. การจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Document)

ยุคปัจจุบันการใช้เอกสารดิจิทัลหรือ e-Document มีความสำคัญมากขึ้น พนักงานต้องรู้จักวิธีการเก็บไฟล์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น PDF, Word, Excel และจัดเรียงในโฟลเดอร์อย่างมีระบบ รวมถึงใช้ Cloud Storage เช่น Google Drive หรือ OneDrive เพื่อความสะดวกและปลอดภัย นอกจากนี้ยังต้องมีการตั้งรหัสผ่านเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล ตัวอย่างเช่น การเก็บสัญญาในรูปแบบไฟล์ PDF และแชร์ให้ผู้บริหารผ่านระบบออนไลน์ แทนการใช้เอกสารกระดาษที่อาจสูญหายง่าย


6. การถ่ายเอกสารและสแกนเอกสาร

พนักงานออฟฟิศมักต้องทำสำเนาเอกสารเพื่อแจกจ่ายให้หน่วยงานต่าง ๆ หรือเก็บไว้เป็นหลักฐาน การใช้เครื่องถ่ายเอกสารและเครื่องสแกนจึงเป็นทักษะที่จำเป็น ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการประชุม ผู้จัดประชุมอาจต้องถ่ายเอกสารประกอบการประชุมจำนวนหลายชุด หรือการสแกนบัตรประชาชนของลูกค้าเพื่อเก็บในระบบ การทำงานเหล่านี้ต้องระวังไม่ให้เอกสารสูญหาย และต้องตรวจสอบว่าคุณภาพของสำเนาอ่านได้ชัดเจน

ร้านถ่ายเอกสารใกล้ลาดพร้าว
ร้านถ่ายเอกสารใกล้ลาดพร้าว

7. การตรวจสอบและแก้ไขเอกสาร

ความถูกต้องของเอกสารเป็นสิ่งสำคัญ พนักงานออฟฟิศต้องตรวจสอบก่อนส่งทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการสะกดคำ ตัวเลข ข้อมูลผู้รับ วันเวลา หรือแม้แต่การใช้คำพูดให้เหมาะสม หากเอกสารผิดพลาด อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเสียความน่าเชื่อถือ ตัวอย่างเช่น หากพิมพ์ยอดเงินผิดแม้เพียงหลักเดียว อาจทำให้บริษัทขาดทุนหรือเสียความน่าเชื่อถือทางธุรกิจ


8. การเซ็นรับรองและจัดส่งเอกสาร

เมื่อเอกสารถูกจัดทำเรียบร้อยแล้ว ต้องส่งต่อเพื่อให้ผู้บริหารเซ็นรับรอง หรือต้องจัดส่งไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก การส่งเอกสารต้องตรวจสอบให้ครบถ้วน เช่น ชื่อผู้รับ ที่อยู่ วันที่ และต้องมีหลักฐานการส่ง หากเป็นเอกสารสำคัญ อาจต้องใช้บริการไปรษณีย์ด่วนหรือจัดส่งโดยแมสเซนเจอร์ ตัวอย่างเช่น การส่งใบเสนอราคาให้ลูกค้า ต้องถึงมือผู้รับตรงเวลาเพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางธุรกิจ


9. การทำบันทึกการประชุม

ทุกการประชุมในองค์กรต้องมีบันทึกข้อความหรือรายงานการประชุม พนักงานที่ได้รับมอบหมายต้องจดบันทึกประเด็นสำคัญ มติการประชุม และข้อสรุป จากนั้นจัดทำเอกสารแจกจ่ายให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง การทำบันทึกการประชุมต้องใช้ทักษะการฟังและการเขียนสรุปที่ดี ตัวอย่างเช่น ในการประชุมแผนกการตลาด อาจมีการสรุปว่ามีการอนุมัติแผนโปรโมชั่นใหม่ พนักงานต้องบันทึกอย่างชัดเจนเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินงานต่อ


10. การทำเอกสารการเงินเบื้องต้น

แม้พนักงานออฟฟิศหลายตำแหน่งจะไม่ได้ทำงานด้านบัญชีโดยตรง แต่ก็มักต้องเกี่ยวข้องกับเอกสารทางการเงิน เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ หรือใบสำคัญจ่าย การจัดทำเอกสารเหล่านี้ต้องมีความรอบคอบเป็นพิเศษ เพราะเกี่ยวข้องกับตัวเลขและการเงินขององค์กร ตัวอย่างเช่น หากทำใบแจ้งหนี้ผิดพลาด อาจส่งผลให้บริษัทเก็บเงินจากลูกค้าไม่ได้ตรงเวลา


สรุป

งานเอกสารที่พนักงานออฟฟิศต้องทำ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับพนักงานออฟฟิศ เพราะเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร บันทึกข้อมูล และใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการทำงาน การจัดการเอกสารที่ดีช่วยให้องค์กรทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท พนักงานออฟฟิศจึงควรพัฒนาทักษะด้านงานเอกสารอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพิมพ์ การจัดเก็บ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และความรอบคอบในทุกขั้นตอน เพื่อให้งานมีคุณภาพและตอบสนองต่อความต้องการขององค์กรในยุคปัจจุบัน

You may also like...