ออกแบบสติ๊กเกอร์เองหรือให้ร้านออกแบบดีกว่า?

ออกแบบสติ๊กเกอร์ด้วยตัวเองดีหรือจ้างร้านออกแบบสติ๊กเกอร์ดีกว่า คงเป็นคำถามหลักของพ่อค้าแม่ค้า ที่กำลังจะสร้างสติ๊กเกอร์แบนด์หรือสร้างสติ๊กเกอร์สินค้าของตัวเอง เพราะหากสินค้าเราดีมากแต่ สติ๊กเกอร์ไม่ดึงดูดใจ ก็อาจไม่มีใครเลือกสินค้าของเรา หากทำเองก็ประหยัด แต่หากจ้างเราก็ต้องเสียเงิน ซึ่งเท่ากับเพิ่มต้นทุนอีก ทั้งๆที่เรากำลังเริ่มค้าขายกับสินค้าใหม่ แล้วเราจะทำอย่างไรดีหละ ในโพสนี้จะรวบรวมข้อมูล ให้คุณสามารถตัดสินใจเลือก ว่าเราจะออกแบบสติ๊กเกอร์ด้วยตัวเอง หรือจ้างร้านออกแบบดี เริ่มกันเลย

เบื่องต้นคุณต้องทราบก่อนว่า การออกแบบสติ๊กเกอร์ต้องเรียนรู้ 1.โปรแกรม 2.ข้อมูล 3.ไอเดีย
1.โปรแกรมออกแบบสติ๊กเกอร์ สำหรับคนที่ไม่เคยใช้งานโปรแกรมมาก่อนเลย อาจต้องใช้เวลาในการศึกษาการใช้งานโปรแกรมเพิ่มเติม แต่โชคดีที่ทุกวันนี้ มีโปรแกรมที่สามารถออกแบบสติ๊กเกอร์มากมาย แถมยังทำได้ง่ายดายมาก และใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์ เช่น บนมือถือ บนเว็ปไซต์ บนคอมพิวเตอร์ ซึ่งหากเป็นคนยุคใหม่ที่ใช้งานโปรแกรมอย่างเคยชิน ก็สามารถฝึกฝนได้ไม่ยากนัก

  • บนมือถือ ก็มีโปรแกรมให้โหลดมาสร้างสติ๊กแกอร์มื่อถือกันมากมายทั้ง IOS และ Android ขั้นตอนการออกแบบง่ายดาย เพียงเลือกภาพ ลากๆ เปลี่ยนสีพื้น เท่านี้เราก็ได้สติ๊กเกอร์แล้ว ใช้เวลาน้อย สดวกมากมาย ข้อเสียคือ สามารถออกแบบสติ๊กเกอร์ขั้นพื้นฐาน สำหรับสติ๊กเกอร์ขนาดเล็ก ที่มีลายละเอียดไม่มากนัก
  • บนเว็ปไซต์ สามารถสามารถสร้างสติ๊กเกอร์ได้ โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ เพียงแค่เข้าเว็ปไซต์ออกแบบสติ๊กเกอร์เท่านั้น ก็สามารถออกแบบได้แล้ว โดยตัวเว็ปไซต์มีรูปแบบสติ๊กเกอร์ให้เลือกมากมาย สามารถเลือกรูปพื้นหลัง เขียนข้อความ ชื่อร้าน เปลี่ยนฟอนร์ ใส่รูปสินค้าของเรา หรือรูปสินค้าจากเว็ปไซต์เองก็มีให้เลือกกัน มีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน สดวกคล้ายบนมือถือแต่มีภาพให้เลือกเยอะกว่า ปรับเปลี่ยนได้มากกว่าบนมือถือ สามารถสร้างสติ๊กเกอร์ขั้นมาตฐานระดับกลาง สำหรับสติ๊กเกอร์ขนาดกลาง ความละเอียดปานกลาง สามารถแก้ไขได้จำกัด
  • บนคอมพิวเตอร์ จะเป็นโปรแกรมออกแบบยอดนิยมเช่น Illustrator Photoshop สำหรับงานออกแบบสติ๊กเกอร์ทุกรูปแบบคือ ออกแบบได้หมด ไม่ว่าจะเป็นสติ๊กเกอร์ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ความละเอียดสูง รูปแบบอักษร แสงเงา สีพื้นหลัง การวางซ้อนกันของรูป ปรับได้หมด ทำงานได้ลึกถึงขั้นมืออาชีพเลย มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ทุกรูปแบบ ข้อเสียคือ โปรแกรมพวกนี้เสียเงินครับแพงด้วย ต้องใช้เวลา สร้างทักษะในการใช้งานโปรแกรม เรียกได้ว่าเปิดการเรียนการสอนกันเลย อาจไม่เหมาะกับ มือใหม่ หรือ
    เราที่มีเวลาจำกัด

2.ข้อมูลสติ๊กเกอร์

  • ข้อมูลรายละเอียด ที่จะใส่ลงบนสติ๊กเกอร์ รูปภาพสินค้า โลโก้บริษัท รูปแบบบรรจุภัณฑ์ 4สิ่งสำคัญในการสร้างสติ๊กเกอร์ ไม่ว่าจะออกแบบเอง หรือให้ร้านออกแบบให้ เราก็ต้องมีข้อมูลนี้โดย
  • ข้อมูลรายละเอียดสำคัญบนสติ๊กเกอร์ ประกอบด้วย ชื่อสินค้า คุณสมบัติ วิธีการใช้งาน การติดต่อ รายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ รูปภาพสินค้า และโลโก้บริษัท ต้องเป็นรูปที่ชัดเจน ไม่มีรูปพื้นหลัง เนื่องจากหากมีภาพพื้นหลังจะทำให้สินค้าของเราไม่สวยงาม
  • รูปแบบบรรจุภัณฑ์ จะตัวกำหนดขนาดสติ๊กเกอร์ และเนื่อหาที่สามารถใส่ลงไปได้ เช่น ขวดขนาดเล็ก ก็สามารถออกแบบสติ๊กเกอร์ขนาดเล็ก เนื่อหาน้อยกว่า สติ๊กเกอร์ขนาดใหญ่ เป็นต้น

3.ไอเดีย หรือจิตนาการ ได้เครื่องมือออกแบบแล้ว เราก็ต้องมีไอเดียด้วย ว่าจะออกแบบสติ๊กเกอร์เราไปในแนวไหน ให้เข้ากับสินค้าของเรา ถือเป็นหัวใจหลักสำหรับการออกแบบสติ๊กเกอร์เลยก็ว่าได้ เพราะเราต้องคิดรูปแบบสติ๊กเกอร์ที่เราต้องการ แล้วนำมาออกแบบสติ๊กเกอร์ที่ต้องการ หากยังไม่มีไอเดีย ก็สามารถค้นหารูปแบบสติ๊กเกอร์ สินค้าในแนวทางเดียวกับเรา บนgoogle ก่อนได้ หรือจะถ่ายรูปไว้ตอนไป shopping นำมาเป็นไอเดียก็ไม่ว่ากัน หากไอเดียโดดเด่นเข้ากับสินค้า ก็จะเพิ่มความน่าเชื่อถือของสินค้า แล้วไอเดียประกอบด้วยอะไรบ้างหละ

  • โทนสี ต้องกำหนดโทนสีก่อนครับ ให้เข้ากับสินค้าของเรา แล้วเราก็สามารถเลือกรูป หรือข้อความต่อไปได้ โดยโทนสีที่นิยม ต้องจะขึ้นกับสินค้าหรือบริการนั้นๆ เช่นสติ๊กเกอร์เกี่ยวกับสปา แน่นอนก็ต้องโทนสีน้ำตาลที่ทำให้ดูผ่อนคลาย น้ำหอมสำหรับผู้หญิงยุคใหม่อาจเป็นสีชมพู่
    ที่สอดคล้องสินค้ากับรสนิยม อุปกรณ์รถยนต์ เน่นทำให้ดูทันสมัย ก็ต้องพื้นหลังสีเทา เป็นต้นครับ อันนี้ไม่ยากครับให้ลองพิมพ์สินค้าของเราใน
    google ดูว่าสติ๊กเกอร์ของสินค้าใกล้เคียงกัน เป็นแบบไหน นำกลับมาเป็นไอเดีย ของเราได้ครับ
  • แบบตัวอักษร (Font) สำคัญมากเพราะสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า การใช้อักษรน่ารัก สำหรับสินค้าเด็ก แบบอักษรที่ใช้ควรอ่านได้ง่าย ไม่เล็กจนเกินไป

เริ่มต้นออกแบบสติ๊กเกอร์
อาจเขียนลงบนกระดาษ คราวๆก่อน วางข้อมูลเนื่อหา โลโก้ และรูปสินค้า เพื่อที่เราจะได้ทราบ รูปแบบสติ๊กเกอร์ที่ต้องการ ว่าอะไรควรอยู่ส่วนใด หากยังไม่มีไอเดียสติ๊กเกอร์ ก็สามารถค้นข้อมูล เพิ่มเติมบนgoogle ก่อนได้ครับ คิดด้วยตัวเองอาจใช้เวลา ดูตัวอย่าง
อาจทำให้เราใช้เวลาน้อยลง เมื่อเราได้ สติ๊กเกอร์คราวๆ แล้ว ก็นำมาสร้างสติ๊กเกอร์ได้เลย จากโปรแกรมด้านบน ที่เราคิดว่าถนัดสุด ย่ำว่าถนัดสุดนะครับ เพราะจะทำให้เราใช้เวลาในการออกแบบน้อย แต่หากเราเลือกโปรแกรมยากๆ อาจทำให้เราใช้เวลาในการออกแบบ
สติ๊กเกอร์นานจนเราเบื่อ เลิกทำไปก่อนได้ครับ

หลักการออกแบบสติ๊กเกอร์ ก็คล้ายๆกันทุกโปรแกรมครับ เรียงลำดับจาก 1.เลือกtemplate 2.ใส่รูปภาพ 3.ใส่ข้อความ

  1. template เลือกtemplateที่ต้องการ โดยโปรแกรมส่วนใหญ่จะมี template ให้เราเลือก ไม่ว่าจะเป็นวงกลม วงรี สีเหลี่ยม สีและภาพพื้นหลังให้เลือกด้วย ขึ้นกับโปรแกรมนั้นๆครับว่ายืดหยุ่นเพียงใด (AI ก็มีtemplate นะแต่ไม่ได้มาพร้อมกับโปรแกรม ต้องไปโหลดเพิ่มเติม)
  2. ใส่รูปภาพ ใส่รูปภาพสินค้าของเรา หรือภาพที่สื่อถึงสินค้าของเรา บางครั้งอาจไม่ใส่รูปใดๆ ก็ได้ครับ
  3. ใส่ข้อความ ตามเนือหาข้อมูลในสติ๊กเกอร์ โดยเนื่อหาต้องไม่แน่เกินไป ชิดกัน จนอ่านไม่ออก ปรับสีตัวอักษรให้อ่านได้ง่ายครับ

จากที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นวิธีการออกแบบสติ๊กเกอร์ด้วยตัวเอง สังเกตุวว่าต้องมีโปรแกรม ต้องมีไอเดีย ต้องค้นหาข้อมูล ซึ่งใช้เวลามากในการออกแบบสติ๊เกอร์ แต่หากจ้างออกแบบสติ๊กเกอร์ ก็จะลดขั้นตอนทั้งหมดลงเหลือเพียง ขั้นตอนการเตรียมข้อมูล โลโก้ รูปสินค้า และรูปแบบบรรจุภัณฑ์เท่านั้น โดยทางร้านจะสอบถามและหารูปแบบสติ๊กเกอร์ที่เหมาะสมให้เราเลือก ออกแบบ แก้ไข จนเรียบร้อย ไม่ควรแก้ไขแบบสติ๊กเกอร์บ่อยๆ เพราะจะทำให้ใช้เวลาเพิ่มขึ้น และอาจต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรค้นหาแบบสติ๊กเกอร์ไว้ในใจด้วย

สำหรับผมจะเลือกออกแบบสติ๊กเกอร์แบบไหน ขึ้นอยู่กับว่าเรามี เวลามากพอ ที่จะเรียนรู้โปรแกรม และออกแบบ หากมีเวลาไม่เพียงพอ การจ้างร้านออกแบบสติ๊กเกอร์ จะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะ เลือกร้านรับออกแบบ ที่ราคาไม่แพงมากนัก เอาเวลาไม่ทำอย่างอื่นๆจะดีกว่า ทั้งนี้เราต้องมีแบบในใจพอสมควร เนื่องจากการแก้ไขบ่อยๆ จะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่หากเรามีเวลาเพียงพอ ต้องการเรียนรู้ และต้องการเปลี่ยนแปลงแบบบ่อยๆ ตาม ต้องการ การออกแบบเอง ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ เพราะเราสามารถแก้ไขได้บ่อยตามต้องการ ควบคุมงบประมาณได้ด้วย

You may also like...